วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562

ความเป็นไปได้เกี่ยวกับฉลามยักษ์ Megalodon

สูญพันธุ์แล้วแน่เหรอ? เทียบหนัง The Meg กับความเป็นไปได้เกี่ยวกับฉลามยักษ์ Megalodon



จากหนังของ Jon Turteltaub ที่เกี่ยวกับอสูรกายใต้สมุทรอย่าง The Meg  เรื่องราวที่นำโดยพระเอกอย่าง Jason Statham กับการปะทะ ฉลามยักษ์ดึกดำบรรพ์ มันจะมีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนที่เราจะสามารถเปรียบเทียบเรื่องราวในหนังกับเรื่องราวของ Megalodon ตัวจริง แล้วมันจะสามารถมีจริงๆไหมในมหาสมุทรอันลึกล้ำที่ยังไม่มีใครค้นพบ คุณแน่ใจได้อย่างไรว่ามันสูญพันธุ์ไปแล้ว และไม่ได้อยู่ข้างนอกนั่นใต้เท้าเราเวลาที่เราลงเล่นน้ำทะเล...


จากในหนังมีการวิจัยและสำรวจใต้ท้องทะเลที่ว่ากันว่าลึกที่สุดในโลกและพวกเขาก็ได้พบกับระบบนิเทศใต้ท้องทะเลลึกใหม่ๆ ปะการังชนิดใหม่ พืชชนิดใหม่ และสัตว์ชนิดใหม่ แต่พวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าที่แห่งนี้จะมีสัตว์ชนิดเก่า ในแบบฉบับที่เก่ามากๆจากยุคดึกดำบรรพ์อย่าง Megalodon อยู่ด้วย แล้วในความเป็นจริงล่ะ? ในความเป็นจริงร่องมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลกนั้นมีอยู่จริง และมันมีชื่อว่า Mariana Trench หรือ ร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนาที่มีความลึกยาวเกือบ 11 กิโลเมตร และปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถลงไปสำรวจลึกขนาดนั้นได้ อีกทั้งมันยังเป็นร่องที่กว้างมาก มีสัตว์อะไรบ้างอยู่ในนั้น และระบบนิเวศจะเป็นแบบไหน ยังไม่มีใครทราบ แต่ที่แน่ๆ ที่ลึกลับแห่งนั้นมันสามารถซ่อนสัตว์ยักษ์ หรือสัตว์ที่เราคิดว่ามันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ได้อย่างแน่นอน และไม่แน่ว่าพวกมัน อาจรอการปลดปล่อยและกลับขึ้นมาสู่น่านน้ำข้างบนอีกครั้ง เหมือนในหนังก็ได้

หากจะถามถึงความสมจริงของ The Meg ในหนัง ที่หลายๆคนอาจจะคิดว่า เอ๊ะในหนังมันเว่อร์ไปรึเปล่า Megalodon ที่เขาว่าเป็นฉลามยักษ์จะใหญ่ขนาดนี้จริงๆเลยเหรอ คุณคิดถูกแล้ว เพราะ The Meg ในหนังมันมีขนาดยาวถึง 70 ฟุต แต่ในความเป็นจริง Megalodon ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบนั้นมีความยาวน้อยกว่า 60 ฟุต และโดยเฉลี่ยทั่วไป Megalodon จะมีความยาวอยู่ที่ 30 ฟุต ซึ่งใหญ่เป็นสองเท่าของฉลามขาว ราชาฉลามในยุคปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม มันก็ยังใหญ่มากอยู่ดีหากเทียบกับมนุษย์อย่างเรา

ก่อนจะจากกันไปเรามีคลิปที่ว่ากันว่า เป็นคลิปใต้น้ำลึกที่ถ่ายติดเจ้า Megalodon ตัวเป็นๆที่ชัดที่สุดให้ดูกัน (แต่บางคนก็ว่ากันว่าไม่ใช่ Megalodon) ไม่ว่าจะยังไงคุณลองชมและตัดสินใจเอาเองละกันนะ...




ฟอสซิล ฟันเมกาโลดอนถูกขโมย!!!

ฟอสซิล ฟันเมกาโลดอนถูกขโมย!!!

เมกาโลดอน

ฟอสซิลฟันซี่หนึ่งที่มีอายุมากกว่า 2 ล้านปี ถูกขโมยไปจากอุทยานแห่งชาติในออสเตรเลีย เหลือทิ้งไว้แต่ความมึนงงให้แก่บรรดาเจ้าหน้าที่
เจ้าของฟันซี่นี้คือ “เมกาโลดอน” (Megalodon) ฉลามโบราณที่เคยมีชีวิตอยู่บนโลกเมื่อราว 23 – 2.6 ล้านปีก่อน โดยฟอสซิลฟันของมันเป็นหนึ่งในตัวอย่างสองชิ้นที่พำนักอย่างสงบอยู่ในอุทยาน Cape Range บริเวณอ่าว Ningaloo ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งสถานที่ดังกล่าวได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโก
น่าเศร้าที่เจ้าหน้าที่อุทยานเพิ่งจะคิดวิธีการเก็บรักษาฟอสซิลดึกดำบรรพ์นี้ออกก็ตอนที่มันถูกขโมยไปแล้ว ไอเดียของเขาคือการนำฟอสซิลฟันบรรจุลงไปในตู้กระจกโชว์ที่สามารถกันกระสุนได้ “ที่แย่ก็คือ ฟันซี่ที่หายไปเป็นตัวอย่างชิ้นที่ดีที่สุด” Arvid Hogstrom เจ้าหน้าที่โฆษกรายงานกับสำนักข่าวบีบีซี “ปกติแล้วเจ้าหน้าที่ของเราเก็บซ่อนฟอสซิลฟันอย่างดี ด้วยการเอาวัสดุตามธรรมชาติอำพราง เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครสังเกตเห็น”
ซี่ฟันความยาวสี่นิ้วถูกเก็บซ่อนอยู่ในสถานที่ลับของอุทยาน และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน และเนื่องจากว่าสถานที่เก็บนั้นอยู่ห่างไกลจากจุดท่องเที่ยว ดังนั้นเจ้าหน้าที่อุทยานจึงไม่ได้เข้าไปตรวจสอบทุกวันว่าฟันของเมกาโลดอนยังอยู่หรือไม่ จนกระทั่งวันที่ 9 มีนาคม 2018 ที่พวกเขาพบว่าซี่ฟันหายไปอย่างปริศนา โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ที่โจรกรรมฟอสซิลไปน่าจะใช้ค้อนกับสิ่วกระเทาะเอาซี่ฟันออกมาจากก้อนหินที่ฟอสซิลฝังอยู่
ด้าน Hongstrom กล่าวว่าราคาของฟันซี่นี้ไม่ได้สูงอะไรนัก อย่างไรก็ตามมันอาจเป็นของสะสมชิ้นโปรดของผู้ที่ชื่นชอบก็เป็นได้ ตัวเขาตั้งข้อสังเกตว่าใครบางคนที่รู้ที่ซ่อนของฟันคงไปบอกเล่าข้อมูลแก่คนผิดเข้า และเขาเชื่อว่างานนี้เป็นฝีมือของพวกนักสมัครเล่น รายงานจากสำนักข่าว AP “ใครบางคนคงอยากได้ฟอสซิลไปตั้งประดับไว้บนหิ้งที่บ้านครับ” เขากล่าว


นักล่ายุคบรรพกาล!? Megalodon

นักล่ายุคบรรพกาล!? Megalodon 

ฉลามโบราณที่โลกเชื่อว่า

มันยัง…ไม่สูญพันธุ์!!!!


อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่ามนุษย์นั้นรู้จักหินบนดวงจันทร์ ดีกว่าพื้นมหาสมุทรของตัวเองซะอีก และก็ด้วยเหตุผลนี้แหละที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าใต้ความมืดมิดของห้วงทะเลลึกนั้น ยังมีสิ่งมีชีวิตโบราณที่หลบซ่อนจากสายตามนุษย์อยู่และหนึ่งนั่นคือนักล่าจากยุคบรรพกาลอย่าง ฉลามยักษ์ Megalodonด้วยความที่เป็นปลากระดูกอ่อน ทำให้ฟอสซิลที่เหลืออยู่ของ Megalodon นั้นมีเพียงชุดฟันขนาดยักษ์และมีรูปทรงที่ไม่ต่างจากฉลามยุคใหม่ จึงทำให้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มันน่าจะมีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากฉลามขาวทุกวันนี้มากนัก เพียงแต่มีขนาดที่ยาวถึง 50 – 80 ฟุต และอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารในทะเลโบราณเมื่อหลายล้านปีก่อนถึงจะเหลือแค่ฟอสซิลให้ศึกษาและมีการลงความเห็นว่าฉลามยักษ์ตัวนี้น่าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว เพราะทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและพื้นที่มหาสมุทรก็เล็กเกินกว่าจะรองรับสัตว์ขนาดยักษ์อย่างพวกมันได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายคนที่เชื่อว่า ในมหาสมุทรที่ถูกสำรวจไปเพียง 5% ของทั้งหมดบนโลกนั้น น่าจะมีพวกมันบางตัวหลงเหลืออยู่ก็เป็นได้แน่นอนว่าความเชื่อนี้ยังคงไร้หลักฐาน และมีเพียงคำบอกเล่าที่ไร้น้ำหนักของชาวประมงในปี 1918 ที่บอกว่าเขาพบ Megalodon ขนาด 100 ฟุตบริเวณนอกชายฝั่งประเทศออสเตรเลีย แต่เหตุการณ์นี้ก็ไม่มีทั้งภาพถ่ายหรือพยานคนอื่นเลย

"นักล่ายุคบรรพกาล!?

10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจ้าฉลามตัวนี้!!!!


10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเจ้าฉลามตัวนี้!!!!

1. นักล่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

ดั่งที่ได้เกริ่นมาข้างต้น เจ้าฉลามเมกาโลดอนนี้เป็นสัตว์นักล่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยรู้จักมาในประวัติศาสตร์โลกด้วยลำตัวของมันที่มีความยาวถึง 20 เมตรนี้
 ทำให้มนุษย์อย่างเราๆ ดูตัวเล็กลงไปถนัดตาเลยนั่นเอง
 


2.) ขนาดของฟัน

และด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ “ฟัน” ของมันจึงมีขนาดที่ใหญ่โตไปด้วย ซึ่งฟันของมันนั้นมีความยาวกว่า 10 – 14 เซนติเมตร จากสถิติขนาดของฟันเมกาโลดอนที่ใหญ่ที่สุดที่ค้นพบมาคือ 17 เซนติเมตร!!
ธุ์ไปในที่


3.) พวกมันกินวาฬเป็นอาหารเช้า

ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โต ทำให้มันต้องกินอาหารเป็นจำนวนมากเพื่อความอยู่รอด แล้วอาหารที่มันกินคืออะไรหล่ะ? วาฬถือว่าเป็นอีกอาหารหลักของเมกาโลดอนที่พวกมันโปรดปราน สังเกตได้จากเศษกระดุกของวาฬที่ติดอยู่ตามฟันของมัน


4.) พวกมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉลามขาว

แม้ว่าจะมีชื่อเป็นฉลามเหมือนกัน แต่พวกมันก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับฉลามขาวเลยอย่างที่งานวิจัยในปี 1843 กล่าวไว้ แต่เมกาโลดอนนั้นถือเป็นตัวแทนของจุดสิ้นสุดของ Chronospecies เสียมากกว่า



5.) ฟันของพวกมันถือเป็นฟอสซิลที่พบได้ทั่วไป

ฟันของพวกมันขนาดต่างๆ ถูกพบทั่วทุกมุมโลก เมกาโลดอนก็เหมือนกับฉลามทั่วๆ ไป ที่มีการ “ผลัดฟัน” อยู่ทุกช่วงเวลาของชีวิต นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำไมเราถึงพบฟันของมันทั่วทุกมุมโลก


6.) เมกาโลดอนสามารถพบได้ทั่วทุกมุมโลก

และเช่นเดีวกับฟันของมัน เมกาโลดอนก็สามารถที่จะพบได้ทั่วทุกมุมของโลก เนื่องจากความสามารถในการล่าและการอยู่รอดในพื้นที่ต่างๆ ของมัน



7.) เมกาโลดอนสูญพันธุ์เมื่อ 2.6 ล้านปีก่อน


ถึงแม้ว่าเมกาโลดอนจะเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่ง ทำการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลกเมื่อ 2.6 ล้านปีก่อน ทำให้ระดับน้ำทะเลลดลง ส่งผลต่ออาหารหลักของมันที่ลดลงตามไปด้วยจึงทำให้มันสูญพันธุ์ไปในที่สุด

8.) พลังกัดที่ทรงพลังที่สุดที่เคยรู้จักมา


จากการจำลองการกัดของมันโดยคอมพิวเตอร์ทำให้นักวิจัยได้ข้อมูลว่าแรงกัดของเมกาโลดอนอยู่ที่ 11,000 -18,000 กิโลกรัม แรงเป็น 6 – 8 เท่าของแรงกัดฉลามขาวและจระเข้ในปัจจุบันเสียอีก!?

9.) มีการค้นพบจุดให้กำเนิดของพวกมันเมื่อไม่นานมานี้


การค้นพบจุดกำเนิดของพวกมันนั้นเป็นข้อมูลสำคัญที่สามารถทำให้นักวิจัยเข้าใจวงจรชีวิตของพวกมันและนำมาประกอบงานวิจัยอย่างอื่นได้อีกด้วย
 

10.) ในหนึ่งตัวมีฟันถึง 276 ซี่ใน 5 แถว



นอกจากความใหญ่โตของตัวมันแล้ว จำนวนฟันที่เยอะถึง 276 ซี่โดยแบ่งเป็น 5 แถวนี้ก็เป็นหลักฐานที่ตอกย้ำถึงความเป็นสัตว์นักล่าของมันได้เป็นอย่างดี

มารู้จักฉลามเมกาโลดอนกัน!!

ฉลามเมกาโลดอน



มารู้จักฉลามเมกาโลดอนกัน!!

ในปัจจุบันหากเรานึกถึงสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยรู้จักมานั้นก็คงไม่พ้นเจ้า “วาฬ” สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารแต่ใครจะไปรู้ว่าในอดีต ชื่อของมันก็คือ “ฉลามเมกาโลดอน” เจ้าฉลาม Megalodon เป็นสัตว์นักล่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยรู้จักมา ขึ้นชื่อว่าเป็นจ้าวแห่งท้องทะเลมีอายุอยู่ในช่วง
 20-2 ล้านปีก่อน
 และตอนนี้ก็ได้สูญพันธุ์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันเหล่านักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษากันอยู่ว่าเหตุใดมันจึงสูญพันธุ์ 


อาจจะเป็นเพราะความใหญ่โตของตัวมันก็เป็นได้ เพราะเมื่อตัวใหญ่ความต้องการอาหารก็ยิ่งมีมาก


อีกทฤษฎีก็บอกว่าเหล่าวาฬที่เป็นเหยื่อหลักของมัน ได้อพยพไปสู่เขตน้ำอุ่น แต่ว่าเจ้า Megalodon ไม่สามารถอาศัยอยู่ในน้ำอุ่นได้ ซึ่งแตกต่างจากฉลามขาวที่สามารถเพิ่มอุณภูมิในร่างกาย จึงทำให้มีอาหารไม่เพียงพอและสูญพันธุ์ไปในที่สุด

อีกทฤษฎีก็บอกว่าเหล่าวาฬที่เป็นเหยื่อหลักของมัน ได้อพยพไปสู่เขตน้ำอุ่น แต่ว่าเจ้า Megalodon ไม่สามารถอาศัยอยู่ในน้ำอุ่นได้ ซึ่งแตกต่างจากฉลามขาวที่สามารถเพิ่มอุณภูมิในร่างกาย จึงทำให้มีอาหารไม่เพียงพอและสูญพันธุ์ไปในที่สุดเมื่อกินมากแหล่งอาหารไม่พอก็ต้องไปรุกรานนักล่าตัวอื่น หรือแม้กระทั่งพวกเดียวกันเองจนทำให้
สูญพันธุ์ไปในที่สุดนั่นเองแต่ถึงแม้มันจะสูญพันธุ์ไปแล้ว ความน่าสนใจของมันทำให้นักวิจัยหยิบเรื่องของมันมาศึกษา








ความเป็นไปได้เกี่ยวกับฉลามยักษ์ Megalodon

สูญพันธุ์แล้วแน่เหรอ? เทียบหนัง The Meg กับความเป็นไปได้เกี่ยวกับฉลามยักษ์ Megalodon จากหนังของ  Jon Turteltaub  ที่เกี่ยวกับอสูรกายใ...